ทำไมทานเมล็ดเจียแล้วท้องอืด ?
เมล็ดเจียเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ที่มีประโยชน์กับร่างกายหลายอย่าง แต่บางคนทานแล้วกลับรู้สึกอึดอัด ท้องผูก ท้องอืด หรือบางวันกลับขับถ่ายลำบากทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วน่าจะกินแล้วขับถ่ายสะดวก
นั่นเป็นเพราะสาเหตุหลักๆ 2 ประการ คือ
1. คุณอาจกินเมล็ดเจียแบบผิดวิธี
2. ร่างกายของคุณไม่ตอบรับกับธัญพืชชนิดนี้
วิธีการกินเมล็ดเจียนั้น กินได้ทั้งแบบแห้ง คือไม่ต้องแช่น้ำ และแบบแช่น้ำ
ซึ่งคนที่มีปัญหาเรื่องท้องผูก ท้องอืด ขับถ่ายไม่สะดวก แนะนำให้กินแบบแช่น้ำ เท่านั้น
ตรวจดูกันนิดว่ากินเมล็ดเจียถูกวิธีหรือเปล่า ?
- ควรเริ่มทานทีละน้อย เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้กับร่างกาย
- สำหรับผู้ที่ไม่เคยทานเมล็ดเจียมาก่อน ควรเริ่มต้นทานประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้ทำความรู้จักกันเสียก่อน เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นชินจึงค่อยๆ ปรับปริมาณให้เพิ่มมากขึ้น
โดยอัตราส่วนของเมล็ดเจีย ต่อน้ำ นั้น ไม่ได้มีการกำหนดตายตัว แต่อัตราส่วนระหว่างเมล็ดเจียต่อปริมาณน้ำที่ดีนั้น ควรเป็น 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำไม่น้อยกว่า 400 cc
- ดื่มน้ำให้มากขึ้นกว่าเดิม ด้วยคุณสมบัติพิเศษของเมล็ดเจียที่คอยดูดซับของเหลวได้ดี ดังนั้น เมื่อคุณกินเมล็ดเจียคุณก็ควรดื่มน้ำตามในปริมาณมากขึ้น โดยอาจจะดื่มน้ำสะอาดผสมน้ำผลไม้ร่วมกันได้ หรือหากกินเมล็ดเจียผสมกับนม น้ำเต้าหู้ ฯลฯ ก็ควรดื่มน้ำในระหว่างวันให้มากขึ้น
แต่พยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง และเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน เพราะเครื่องดื่มประเภทนี้มีคุณสมบัติดูดซับน้ำจากร่างกายของเราเช่นกัน
- ควรแช่เมล็ดเจียให้ได้ที่ก่อนตามประเภทของน้ำที่แช่ วิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงของอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาหารไม่ย่อยเมื่อกินเมล็ดเจีย คือ การแช่เมล็ดเจียให้ได้ที่ก่อนรับประทาน
ตามประเภทของน้ำ ดังนี้
--> น้ำเปล่า อุณหภูมิห้อง ควรแช่อย่างน้อย 15 นาที หรือนานกว่านั้น
--> แช่ใน นม น้ำเต้าหู้ ชา กาแฟ (แนะนำแบบไม่มีคาเฟอีน) อุ่น หรือร้อน ควรแช่อย่างน้อย 5-10 นาที หรือนานกว่านั้น
--> หากแช่ในน้ำเปล่า แช่เย็น ควรแช่อย่างน้อย 60 นาที หรือนานกว่านั้น
--> หากต้องการทานร่วมกับน้ำอื่นๆ ใน อุณหภูมิห้อง เช่น นม น้ำเต้าหู้ น้ำผลไม้ แนะนำให้แช่ในน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องก่อนอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นจึงนำมาผสมกับน้ำอื่นๆ ดังกล่าว
**********************
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องการขับถ่ายยากอยู่แล้ว ต้องหลีกเลี่ยงการบริโภคเมล็ดเจียดิบ ๆ อย่างเด็ดขาด
หากทำทุกวิธีที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ยังเกิดอาการท้องผูก ท้องอืด ต่อเนื่อง ต้องยอมรับสัญญาณจากร่างกาย โดยการหยุดกินเมล็ดเจีย และเลือกอาหารหรือธัญพืชชนิดอื่นมาบริโภคแทนดีกว่า
**********************
นอกจากนี้อาการท้องผูก อาจเกิดมาจากการมีพฤติกรรมการกิน การขับถ่าย และการใช้ชีวิตประจำวันที่ผิดไป ได้เช่นกัน เช่น
• ดื่มน้ำน้อยเกินไป
• รับประทานใยอาหารน้อยเกินไป
• เมื่อเดินทางไกล
• รับประทานอาหารผลิตภัณฑ์จากนมสัตว์มากเกินไป เช่น นม ชีส
• ความเครียด
• กลั้นอุจจาระ ซึ่งบางครั้งทำให้เกิดริดสีดวงทวาร
• ใช้ยาถ่ายอยู่เป็นประจำ
• การใช้ยาลดกรดที่มีส่วนประกอบของ อะลูมิเนียม หรือ แคลเซียม (หรือที่เรียกกันว่า ยาธาตุน้ำขาว)
• การตั้งครรภ์
**********************
ลองสังเกตตัวเองดู ว่าที่คุณท้องผูก หรือท้องอืดนั้น มีสาเหตุมาจากอะไร และแก้ไขให้ตรงจุด
**********************
ติดตาม เรื่องน่ารู้ของรูปร่าง และสุขภาพ
ได้ที่ https://www.facebook.com/slim.chia/
ID Line: @slim.h หรือกด https://line.me/ti/p/@slim.h